Tuesday, January 22, 2013

หนีกรุงไปเที่ยวคุ้งบางกะเจ้า


"ถึงปากลัดแลท่าชลาตื้น  ดูเลื่อมลื่นเลนลากลำละหาน  เขาแจวจ้วงล่วงแล่นแสนสำราญ   มาพบบ้านบางระเจ้ายิ่งเศร้าใจ  อนาถนิ่งอิงเขนยคะนึงหวน  จนจวบจวนแจ่มแจ้งปัจจุสมัย  ศศิธรอ่อนอับพยับไพ  ถึงเชิงไทรศาลพระประแดงแรง" - นิราศเมืองแกลง, สุนทรภู่ 

นั่นเป็นครั้งแรกที่ฉันได้รู้จักชื่อบางกะเจ้า และหลังจากต้องท่องนิราศบทนั้นติดต่อกันเป็นเวลาร่วมภาคการศึกษา ภาพจำของบางกะเจ้าสำหรับฉันจึงเป็นสถานที่ที่สุนทรภู่เคยล่องเรือผ่านขณะเดินทางไปเมืองแกลง หลายปีผ่านไป กลับมาได้ยินชื่อนี้อีกครั้งเมื่อเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งถามขึ้น “เคยไปเที่ยวบางกะเจ้าไหม”  ด้วยไม่คิดว่าชื่อเช่นนี้จะเป็นสถานที่สำหรับ 'เที่ยว' ได้ จึงได้ลองไปพิสูจน์ด้วยตัวเองถึง อ.พระประแดง ในคุ้งน้ำลักษณะคล้ายเกาะล้อมรอบด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ใคร ๆ ขนานนามกันว่า บางกะเจ้า

สวนหมากแดงในคุ้งบางกะเจ้า

บางกะเจ้าคือดินแดนในฝันของคนกรุง ข้อมูลบางแห่งจากอินเตอร์เน็ตว่าไว้ เมื่อเราเดินทางไปถึง ภาพที่เห็นเป็นยิ่งกว่าดินแดนในฝัน เพราะสถานที่แห่งนี้ไม่ใช่แม้แต่สิ่งที่เราจะจินตนาการได้เมื่ออยู่ในเมือง ภาพต้นไม้สูงใหญ่ บ้านเรือนที่ปลูกไม้ดอกไม้ประดับแทนรั้ว คันคลองร่องสวนที่ยังอุดมสมบูรณ์ ถนนหนทางที่ร่มรื่นไร้มลพิษ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เลิกกังขาต่อคำยกย่องของนิตยสารไทมส์ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ ที่ว่าบางกะเจ้าเป็น The Best Urban Oasis Of Asia

ป่าจาก  ต้นจากนั้นถือเป็นพืชประจำถิ่นของบางกะเจ้า


คุ้งบางกะเจ้าเป็นส่วนหนึ่งของ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ประกอบไปด้วย ๖ ตำบล ได้แก่ ต.ทรงคนอง ต.บางยอ ต.บางกระสอบ ต.บางน้ำผึ้ง ต.บางกอบัว และ ต.บางกะเจ้า  ทั้ง ๖ ตำบลอยู่รวมกันในพื้นที่เกาะกลางแม่น้ำเจ้าพระยา มีลักษณะเป็นคุ้งน้ำคดโค้งไปมา ทำให้ใครต่อใครต่างเรียกที่นี่ด้วยชื่อที่น่ารักน่าชังว่า 'กระเพาะหมู'  คนในพื้นที่นอกจากจะมีคนไทยแล้ว ยังมีคนมอญซึ่งอพยพเข้ามาอาศัยแผ่นดินไทยตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น สร้างบ้านแปงเมืองอยู่ในพื้นที่นี้จนบางกะเจ้ากลายเป็นแหล่งอารยธรรมมอญที่สำคัญแห่งหนึ่งในประเทศไทย

เราไปถึงบางกะเจ้าในเช้าวันเสาร์ ตกลงใจจะสำรวจพื้นที่บางกะเจ้าด้วยพาหนะสองล้ออย่างจักรยาน เพราะจักรยานเป็นพาหนะหลักของชาวบ้านที่นี่ เป็นสิ่งที่อยู่ในชีวิตประจำวันไม่ต่างจากการการกินข้าวหรือการอาบน้ำ วิธีที่ดีทีสุดทีจะรู้จักที่นี่จึงเป็นการลงไปสัมผัสวิถีชีวิตที่แท้จริงในรูปแบบของพวกเขาด้วย

ตลอดเส้นทางปั่นจักรยานในบางกะเจ้าจะมีป้ายบอกทางปักไว้


ก่อนเริ่มปั่นจักรยาน เราตรงไปยังบ้านลุงกุล ใน ต.บางยอ ลุงกุลเป็นผู้เชี่ยวชาญการขี่จักรยานในพื้นที่บางกะเจ้า และเปิดบ้านของลุงเป็นศูนย์การเรียนรู้การท่องเที่ยวด้วยจักรยาน เป็นจุดให้ความรู้เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวผู้มาใหม่และยังเป็นจุดนัดพบของสิงห์นักปั่นที่นิยมชมชอบการมาขี่จักรยานในคุ้งบางกะเจ้า  เส้นทางปั่นจักรยานที่คุณลุงมีให้ผู้มาใหม่เลือกสรรมี ๓ ทาง ทางแรกเป็นทางวิบาก ระยะทางกว่า ๒๕ กิโลเมตร ทางที่สองเป็นทางกึ่งวิบากกึ่งสบาย ปั่นผ่านถนนใหญ่บ้างร่องสวนบ้าง ระยะทางรวม ๑๗ กิโลเมตร ทางสุดท้ายเป็นทางสำหรับมือใหม่ ระยะทางราว ๗ กิโลเมตร เราตกลงใจเลือกทางเส้นที่สองหรือที่แอบตั้งชื่อให้ว่า 'ทางสายกลาง' แล้วเริ่มต้นปั่นไปพบความสงบงามแห่งบางกะเจ้ากันในเช้าวันนั้นเอง

เริ่มปั่นล่ะนะ !

เส้นทางจักรยานเริ่มที่ ต.ทรงคนอง เราปั่นผ่านถนนเส้นหลักในคุ้งบางกะเจ้าคือ ถ.เพชรหึงษ์ ทางคอนกรีตที่ยังมีรถยนต์ให้ได้พบเจอ จากนั้นลุงกุลผู้อาสานำทางเราปั่นก็พาเราตรงขึ้นไปยัง ต.บางยอ และเลี้ยวขวาเข้าไปยัง ต.บางกระสอบ ที่บางกระสอบนี่เองที่ทำให้เรารู้สึกอย่างแท้จริงว่าที่นี่คือสถานที่ในอุดมคติที่คนเมืองไม่อาจจินตนาการได้  สวนป่าบางกระสอบร่มรื่นไปด้วยไม้ยืนต้นขนาดใหญ่มากมาย จิก ลำพู ลำแพน รวมทั้งไม้เศรษฐกิจอย่างตะกู  มีสัตว์น่ารักอย่างกระรอก กระแตปีนป่ายต้นไม้ ระยะห่างระหว่างไม้ต้นใหญ่แต่ละต้นเรายังเห็นกล้าไม้มากมายปลูกแซม “หลักการปลูกไม้ของที่นี่คือจะไม่ตัดต้นไม้เก่าทิ้งแต่จะปลูกต้นใหม่ขึ้นแซมต้นเก่า” คุณลุงกล่าว ฉับพลันที่มองสวนป่าที่มีทั้งไม้เล็ก-ใหญ่ มีสัตว์เล็กสัตว์น้อยอาศัยป่าเพื่อการเจริญเติบโตนั้นเองที่เราตระหนักได้ว่า นี่คือตัวอย่างการเกื้อกูลพึ่งพาอาศัยของสิ่งมีชีวิตด้วยกันอย่างแท้จริง

จากบางกระสอบเราไปต่อยังบางน้ำผึ้ง ตำบลที่เรียกได้ว่าคึกคักมากที่สุดตำบลหนึ่ง ที่นี่มีตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของคนในชุมชน ขายของที่ผลิตโดยคนในชุมชนเอง เป็นการร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาชุมชน และที่หลังตลาดแห่งนี้ก็ยังมีสวนป่าบางน้ำผึ้ง มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติขนาดเล็กที่มีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับพื้นที่บางกะเจ้ารวมทั้งความรู้เชิงนิเวศวิทยา ป้ายความรู้และของจริงที่อยู่ตรงหน้าทำให้เรารู้ว่าต่อจากนี้เราควรปฏิบัติต่อพื้นที่สีเขียวที่เราพึ่งพาอาศัยอยู่อย่างไร

Bangkok tree House บ้านพักสุดหรูในบางกะเจ้าที่เราบังเอิญได้พบ


มีข้อความดีๆแปะไว้ทั้งบ้านเลย

ลุงกุลเห็นเราสนุกกับการปั่นจักรยานลัดเลาะสวน จึงเอาใจด้วยการพาออกนอกเส้นทางสายกลาง ลัดเลาะไปยังคันคลองร่องสวนใน ต.บางน้ำผึ้ง เข้าไปยังสวนป่าเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา ทางเส้นนี้ทั้งสวยทั้งน่าหวาดเสียว เกือบทั้งเส้นทางเป็นทางปูนยกระดับความกว้างประมาณ ๑ เมตร  ทางบางช่วงมีราวกั้น บางช่วงมีราวฝั่งเดียว แต่หลายช่วงสุดหวาดเสียวด้วยไม่มีราวทั้งสองข้าง และรอบข้างเป็นคันคลองร่องสวนและแม่น้ำ จุดที่หวาดเสียวที่สุดคือทางโค้ง  บางคนในกลุ่มเราเลี้ยวพลาด พลัดตกลงไปในร่องสวนเกิดเสียง “ตุ้บ!” ใหญ่ กว่าจะตะกายขึ้นมาจากร่องสวนได้ก็ใช้เวลาสักพัก เสื้อผ้าเปรอะเปื้อน พี่ชายผู้ตกร่องสวนสารภาพว่ากำลังหักหลบกองขี้หมากองใหญ่ทำให้ตีวงจักรยานพลาดพลัดตกลงไปในสวน แต่เรื่องที่น่าเศร้าก็คือเมื่อตะกายจากร่องสวนขึ้นมาบนทางปูนได้ กลับมาเหยียบกองขี้หมาที่หักหลบตอนแรกเข้าอย่างจัง เหตุการณ์ครั้งนี้จึงทำให้เราสรุปกันได้ว่า เจอขี้หมาดีกว่าเจอน้ำคลอง !

สวนป่าบางน้ำผึ้ง สวย สงบ ร่มรื่น

จากบางน้ำผึ้ง เราไปต่อกันที่บางกอบัว ที่บางกอบัวมีวัดบางกอบัว วัดมอญเก่าแก่ จากนั้นก็ปั่นล่องไปถึงตำบลสุดท้าย ต.บางกะเจ้า พื้นที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมพันธุ์ปลากัดหายากและมีนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเมืองพระประแดง และยังมีสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทั้งขี่จักรยาน ดูนก ให้อาหารปลา หรือว่าจะเดินเล่นศึกษาธรรมชาติเฉย ๆ ก็ประทับใจได้มากเพียงพอ  บรรยากาศภายในสวนแสนร่มรื่น เราขี่จักรยานปะปนเข้าไปกับกลุ่มนักปั่นกลุ่มใหญ่  สวนสวยและอากาศที่บริสุทธิ์เหล่านี้เป็นผลมาจากกฎของชาวบ้านในคุ้งบางกะเจ้าที่ว่า “ห้ามตัดต้นไม้ทุกต้น”  ต้นไม้ทุกต้นในผืนดินผืนนี้จึงมีสิทธิ์ที่จะมีชีวิตอยู่และเติบโตเช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด

จาก ต.บางกะเจ้า เราปั่นเลาะร่องสวนกลับมาจนถึงบ้านลุงกุล ที่ ซ.เพชรหึงษ์ ๒๓ ต.บางยอ  ด้วยความเหนื่อยล้าและหิวโหย เราสั่งน้ำหวานมาดื่มกันเกือบสิบขวด ในขณะที่ลุงกุลผู้มีอายุ ๖๐ ปี ยังเดินไปมาเล่นกับหลานสาวตัวน้อยในบ้านอย่างกระปรี้กระเปร่า ไร้วี่แววของความเหนื่อยล้า  การออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานทุกวันทำให้ลุงกุลแข็งแรงเกินกว่าวัย เรามองลุงเป็นตัวอย่างพลางบอกตัวเองว่าการมีสุขภาพที่ดีเป็นพรอันประเสริฐที่เรามอบให้ตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องรอรับจากสวรรค์

สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ สวรรค์ของบรรดาคนรักจักรยาน

เราอยู่บางกะเจ้าสองวัน และลาจากดินแดนในฝันแห่งนี้ไปในเย็นวันอาทิตย์ ตะวันกำลังจะลาลับขอบฟ้า เช่นเดียวกับภาพเมืองสีเขียวที่ค่อย ๆ หายลับตาเราไป  ระหว่างที่มองภาพสุดท้ายของคุ้งบางกะเจ้าในเย็นนั้น เรานึกถึงคำพูดคำหนึ่งของใครสักคนที่ว่า “เราต้องช่วยกันรักษาป่า เพราะป่าเท่านั้นที่จะรักษาเรา” พลางคิดว่าคำพูดนี้คงไม่จำเป็นสำหรับที่นี่ เพราะที่บางกะเจ้า... คน, สัตว์, ป่า - “เราคือลมหายใจเดียวกัน”


Patha V

3 comments:

  1. อ่านแล้วทำให้อยากไปนะ ดูเหมือนที่นี่จะมีโรงงานทำกระดาษของไต้หวันหรือเกาหลีไม่รู้อยู่ด้วย เป็นกระดาษที่สวยมาก เคยเห็น มีข้อมูลไหม ?

    ReplyDelete
  2. สำหรับคนที่ไม่มีจักรยานนะครับ แนะนำให้มาเช่าได้ที่หน้าสวนศรีครับทางเรามีจักรยานให้ท่านเลือกมากมาย โดยที่ท่านไม่ต้องไปเช่าที่ไกล ๆ โดยที่ท่านสามารถขับรถมาจอดบริเวณสวนศรีฟรี แล้วท่านก็เช่าบิเวณที่จอดรถได้เลยครับ ทางหน้าสวนมีบริการ ชั่วโมงละ 30 บาทเท่านั้น สนใจโทร 0839263825 (bike)

    ReplyDelete
  3. http://www.edtguide.com/article/438823/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2-%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3

    ReplyDelete