Thursday, January 24, 2013

Home sick..


ตอนแรกพี่ว่าจะเขียนเรื่องปัญหาโรคอ้วนของคนอเมริกา แต่ว่าเปลี่ยนใจขอมาเล่าเรื่อง Home sick หรือความคิดถึงบ้านดีกว่า เพราะว่ามันเข้าสถานการณ์ของพี่ช่วงนี้อย่างมาก...

Home sick คืออาการคิดถึงบ้าน ซึ่งเกิดขึ้นโดยเฉพาะในเวลาที่ย้ายถิ่นฐานใหม่ๆไกลจากบ้าน จากครอบครัวและเพื่อน ความหนักหนาของอาการก็ขึ้นอยู่กับคนๆนั้นว่ามีความผูกพันกับที่บ้าน หรือว่าเคยชินกับการอยู่ใกล้ชิดกับคนในครอบครัวหรือเพื่อน มากน้อยแค่ไหน

ถึงแม้ส่วนมากอาการนี้จะเกิดตอนที่เราย้ายมาที่นี่ใหม่ๆ แต่จากประสบการณ์ของพี่และเพื่อนหลายๆคน เห็นตรงกันว่า อาการคิดถึงบ้านจะสาหัสมากที่สุดตอนที่กลับมาจากการเยี่ยมบ้านที่ไทย เพราะว่าเราปรับตัวอยู่ที่นี่(แบบเหงาๆ)ได้แล้ว กลับบ้านไปก็เหมือนการสะกิดแผลขึ้นมาอีกรอบ พอแผลมันเปิดรอบนี้มันก็หายยากกว่าเดิม พี่กลับบ้านไปตอนเดือนธันวาปี 2553 ครั้งนั้นต้องบินออกจากไทยตอนเช้า แต่พี่เพิ่งมานั่งจัดกระเป๋าตอนตีสอง อิดออดตลอดเวลาที่เอาของใส่กระเป๋า เหมือนตัวเองกลายเป็นเด็กที่เริ่มเข้าอนุบาลแล้วไม่อยากไปโรงเรียน… ถามแม่ตลอดว่า ”ไม่กลับไปได้มั้ย”


Bangkok, Thailand

นี่คือสาเหตุที่พี่ไม่ได้กลับบ้านมาสองปีแล้ว ไม่อยากกลับมาแล้วต้องมาปรับตัวกันอีกรอบ ครั้งที่กลับมาใหม่ๆตอนนั้น วันนึงพี่ตื่นแล้วมีความคิดแรกคือจะไปกินกาแฟแล้วนั่งคุยกับแม่ ซึ่งเป็นกิจวัตรที่พี่ทำทุกวันตอนเช้าที่อยู่ไทย แต่พอลืมตา พี่เห็นห้องของตัวเอง แล้วก็คิดได้ว่านี่ชั้นอยู่อเมริกานี่ หลังจากนั้นพี่ก็ร้องให้โฮ ในตอนนั้นห้องพี่มีของเต็มไปหมด แต่มันรู้สึกโล่งโหวงเหวงมาก

เวลาคิดถึงบ้านมากๆ พี่ก็พยายามปลอบใจตัวเองว่า สมัยนี้ยังดีมีโทรศัพท์ อีเมลล์ สามารถสื่อสารกับที่บ้านได้ทันที ต่างจากที่คนสมัยก่อนทางติดต่อที่สะดวกคือจดหมาย กว่าจดหมายจะมาถึงผู้รับที่ไทย ตอนนั้นปัญหาที่ผู้ส่งเขียนมาระบายอาจคลี่คลายไปแล้วก็ได้ (มีใครจำแอร์เมลล์ หรือเจ้ากระดาษแผ่นบางๆสีฟ้าได้มั้ย ที่คนเขียนต้องเขียนกันตัวละเอียดยิบ ใช้พื้นที่ให้คุ้มที่สุด เพื่อส่งไปให้คนไกลบ้าน) สมัยนี้ยังดีที่สามารถโทรศัพท์ติดต่อคนที่บ้านได้ทันที สมัยก่อนเรื่องเห็นหน้าค่าตาคงไม่ต้องพูดถึง ต้องส่งรูปกันทางจดหมายเท่านั้น สมัยนี้สะดวกกว่าเยอะทั้งเฟซบุ๊ค Skype วีดีโอแช็ท ที่สามารถคุยกัน เห็นความเปลี่ยนแปลงของคนไกลให้หายคิดถึงกันบ้าง

แต่ละคนก็มีวิธีการแก้ปัญหาการคิดถึงบ้านต่างกัน บางคนก็ทำหากิจกรรมทำ ไปเที่ยว หรือว่าบางคนก็แก้ปัญการนี้ด้วยการบินกลับบ้านบ่อยๆ และการมีเพื่อนสนิทที่นี่ก็ทำให้ความคิดถึงบ้านลดน้อยลงไปได้ ยิ่งถ้ามีเพื่อนที่สนิทจนกลายเป็นเหมือนคนในครอบครัว ก็ช่วยให้หายคิดถึงบ้านไปได้เยอะ

ตอนนี้อาการคิดถึงบ้านมันคุกคามพี่อย่างรุนแรง ไม่รู้เพราะมันถึงจุดอื่มตัวที่อยู่ที่นี่แล้ว หรือว่าเพราะจะได้กลับบ้านเร็วๆนี้ หรือว่าเพราะปัญหาส่วนตัวเรื่องอื่น บางอย่างที่เมื่อก่อนชอบทำคนเดียวแล้วมีความสุข เช่นเที่ยวหรือดูหนัง ก็กลายเป็นกิจกรรมน่าเบื่อ การออกไปพบปะผู้คนก็ไม่ได้ช่วยให้ความคิดถึงบ้านน้อยลง อาจฟังดูแย่ แต่พี่เหนื่อยกับการที่ต้องดูแลตัวเอง ทั้งๆที่ปกติแล้วก็เป็นคนทำอะไรด้วยตัวเองมาตลอด แต่ว่าทุกอย่างคงดีขึ้นถ้าเรามีคนเรารัก (ครอบครัวและเพื่อน) คอยรับฟังเวลาเรามีปัญหา หรือแค่ยิ้มให้ ได้พบปะพูดคุย ปัญหาหรือความเครียดที่เรามีก็เบาบางลง ... บางครั้งพี่สงสัย ว่าคนรอบข้างที่พี่เจอกันทุกวัน เค้าจะรู้มั้ยนะว่าพี่เหงาและคิดถึงบ้านขนาดนี้

ขอโทษที่วันนี้เรื่องที่เล่าดูส่วนตัวไปนิดนึง เหมือนกลายเป็นบ่นซะงั้น แต่มันอาจจะโดนใจคนไกลบ้านหลายๆคนเนอะ :)


Mellow tiger..




ฟังเพลงนี้ทีไร แล้วคิดถึงบ้านทุกที

0 comments:

Post a Comment