หลังจากที่นั่งข้างสาว(ติดแฟน) มา 10 ชั่วโมง พี่ก็ถึงที่ญี่ปุ่น จริงๆแล้วมีเวลาเปลี่ยนเครื่องที่ญี่ปุ่นถึงสองชั่วโมงกว่า แต่ก็ไม่มีแรงเดินไปไหน รอต่อเครื่องอีกสองชั่วโมง จึงได้ออกจาก Narita กลับไทย... พี่ได้นั่งข้างๆวิศวกรชาวภูฏาน เค้าตกใจมากที่พี่รู้จักประเทศเค้า เพราะประเทศเค้าเป็นประเทศเล็กๆที่มีประชากรประมาณเก้าแสนคน เค้าเล่าให้ฟังว่าประเทศภูฏานไม่ได้ร่ำรวยแต่ทุกคนมีความสุขดี เพราะรัฐดูแลค่าใช้จ่ายเรื่องบ้านและการศึกษาให้กับประชาชน ซึ่งพี่ว่าเป็นเรื่องดีมากๆ พี่บอกเค้าว่า พี่ไม่ได้กลับบ้านมาสองปีกว่า และเริ่มกังวล เพราะเพื่อนหลายคนบอกว่าตอนนี้กรุงเทพ ทั้งรถติด คนเยอะ ข้าวของแพง โดยส่วนตัว พี่ขออยู่ใช้ชีวิตในเมืองเล็กๆที่ไม่วุ่นวายดีกว่า
ผ่านไปอีกเกืบเจ็ดชั่วโมงพี่ก็ถึงไทย(ซะที) ทันทีที่ล้อแตะพื้น น้ำตาไหลและรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกตรงคอ ความรู้สึกแรกคือในดีใจและตื่นเต้นที่ที่สุดก็ได้กลับบ้าน เริ่มเข้าใจว่าความรู้สึกอยากจูบพื้นเหลังจากที่ลงจากเครื่องเป็นยังไง :)
ในวันสองวันแรกที่พี่มาถึง พี่มีอาการ Culture Shock (รู้สึกว่าตัวเองกระแดะมาก ไม่อยู่บ้านแค่ 2 ปีเอง) พี่ไม่รู้ว่าคนที่ไปอยู่ต่างบ้านนานๆเค้าจะรู้สึกเหมือนพี่รึเปล่า แต่พี่รู้สึกสับสนกับสิ่งแวดล้ม งงๆกับตัวเอง ไม่ชินที่เจอคนหัวดำเดินเยอะแยะไปหมด จะพูดอะไรก็ต้องระวัง เพราะคนรอบข้างเข้าใจทุกอย่างที่พี่พูด จะพูดถึงคนอื่นอย่างที่เคยทำไม่ได้แล้ว มีบางครั้งที่พี่หลุดพูด Thank you และ Excuse me โดยบังเอิญ คนอื่นที่เค้าไปอยู่ต่างบ้านแล้วเจอคนไทยเยอะๆอาจไม่มีปัญหานี้ แต่สำหรับ แต่สำหรับคนที่ใช้เวลาส่วนมากกับชาวต่างชาติ ก็จะเริ่มเคยชินกับการใช้ภาษาที่สอง (ถ้าใครไปเรียนต่างประเทศ แล้วอยากได้ภาษาเยอะๆ พี่แนะนำว่าไปเรียนที่ที่คนไทยน้อยๆดีกว่า) อีกเรื่องที่ต้องปรับตัวคือการอยู่กับคนเยอะๆในบ้าน เพราะที่นู่นพี่อยู่คนเดียว ต้องรับผิดชอบตัวเอง แต่ตอนนี้มาอยู่บ้าน มีพ่อ แม่ น้องและพี่ที่บ้านอีกหลายคนก็เลยรู้สึกแปลกๆ และอาจจะขาดความเป็นส่วนตัว จากที่รับผิดชอบตัวเองคนเดียว ตอนนี้ก็มีแม่มาคอยเตือนให้ทำนู่นทำนี่ เช่น เก็บห้อง ไปอาบน้ำ ถามเพื่อนก็เป็นคล้ายๆกัน คือเหมือนเรากลายเป็นลูกเล็กของพ่อแม่อีกครั้งนึง
กลับมาถึงบ้านได้วันแรก พี่ก็เตรียมเดินสาย พบญาติพี่น้อง ด้วยเวลาที่จำกัดแค่สองอาทิตย์ พี่เลยวางแผนว่าวันไหนต้องไปไหน ไปเจอใคร และไปกินอะไร การกลับบ้านครั้งนี้ พี่เลือกที่จะเจอเพื่อนที่สนิทๆ (ทุกคนได้รับโควต้า เจอพี่คนละ 1 ครั้ง ^^ ) และใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด แต่ที่ขาดไม่ได้เลยคือต้องไปทะเล พี่เป็นคนชอบทะเลมาก แต่ดันเลือกไปเรียนที่ Colorado ซึ่งเป็นรัฐที่มีแต่ภูเขา ถ้าอยากไปทะเล ต้องบินไปรัฐอื่น ครั้งนี้พี่เลือกไปเกาะเต่าและนางยวน ซึ่งประทับใจมากๆ ทะเลสวยสุดๆ ถึงแม้จะมีเวลาที่จำกัดและใช้เวลาเดินทางนาน แต่ก็สนุกมากเพราะได้เดินทางกับคนที่รู้ใจและขอขอบคุณ Social Network ที่ทำให้เวลาที่กายเราห่างสองปีนั้น ไม่ได้เพิ่มระยะทางระหว่างเราเลย
Nangyuan Island, Thailand - February 15, 2013 |
ครั้งหน้าจะมาเล่า(บ่น)เรื่องของ”บ้าน”จากสายตาคนที่ไม่ได้กลับบ้านมานาน
Mellow tiger..
0 comments:
Post a Comment