Friday, May 31, 2013

คาราบาว :: เมดอินไทยแลนด์ | วณิพก | คนล่าฝัน | เสียงเพลงไม่มีวันตาย




เนื่องด้วยภาพยนตร์เรื่อง "ยัง'บาว" ได้เข้าฉายไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คอลัมน์ Friday Playlist วันนี้จึงขอหยิบยกบทเพลงจากวงดนตรี country rock เลือดไทยวงนี้มาแนะนำ


อย่างที่รู้กันว่าคาราบาวก่อกำเนิดขึ้นที่ประเทศฟิลิปปินส์จากการรวมตัวสมาชิกปัจจุบันอย่างแอ๊ดและเขียว และอดีตสมาชิกอย่างไข่ที่เป็นทั้งผู้ตั้งและแนะนำให้แอ๊ดเข้ามร่วมวงแต่กลับไม่ได้ออกอัลบั้มร่วมกับคาราบาวเลยแม้แต่อัลบั้มเดียว และเมื่อได้กลับมาประเทศไทยวงคาราบาวก็ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่อีกหลากหลายคนและได้ร่วมตัวสร้างสรรค์ผลงานเพลงเพื่อชีวิตมาถึงทุกวันนี้


แม้จะไม่ได้เรียกว่าเป็นวงดนตรีโปรดของทั้งพ่อและแม่ แต่ทั้งคู่ต่างก็ชอบเปิดเพลงของวงคาราบาวฟังบนรถยามเมื่อต้องออกเดินทางร่วมกัน เราจึงได้ยินเพลงของคาราบาวมาหลายปีก่อนได้มารู้จักว่าวงดนตรีคาราบาวมีใครบ้างและโด่งดังแค่ไหน หนึ่งเพลงที่เรียกได้ว่าเป็นเพลงระดับตำนานของคาราบาวคือเพลงเมดอินไทยแลนด์ที่มีเนื้อหาแอบเสียดสีกระแสความนิยมวัฒนธรรมต่างชาติในสมัยนั้น เพลงนี้นอกจากจะมีเนื้อเพลงเป็นตัวชูโรงแล้ว การใช้ขลุ่ยไทยเป็นตัวนำในภาคดนตรียังช่วยเน้นย้ำให้เพลงนี้มีความเป็นเมดอินไทยแลนด์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย


อีกหนึ่งเพลงที่เป็นที่รู้จักกันดีของชาวเพลงเพื่อชีวิตคือเพลงวณิพก เพลงที่ถ่ายทอดชีวิตของผู้พิการทางสายตาที่ออกมาร้องเพลงหากินเร่ร่อนตามท้องถนนซึ่งเป็นภาพที่เราทุกคนได้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง ในส่วนของภาคดนตรีคาราบาวเลือกที่จะใช้จังหวะดนตรีสามช่าตัดอารมณ์เนื้อเพลงที่ฟังดูตัดพ้อ โดยรวมแล้วเพลงนี้จึงเป็นเพลงที่ฟังแล้วได้ความรู้สึกเข้าใจความคิดมิดมากกว่าความท้อแท้ต่อชีวิต


คนล่าฝันเป็นเพลงที่มีดนตรีสนุกสนานแต่ครั้งแรกที่เราได้ฟังกลับมีน้ำปริ่มตาเพราะด้วยเนื้อเพลงที่เตือนสติให้รู้ถึงสัจจธรรมอย่างแท้จริงว่าหยุดเมื่อไหร่ก็จบเมื่อนั้น หากมีแรงก็จงทำมันต่อไปแล้วสักวันความฝันที่ห่างไกลก็จะขยับเข้ามาใกล้เราเอง ทุกวันนี้เรายังคงฮัมเพลงนี้เลี้ยงแรงใจในวันที่รู้สึกว่าชีวิตมันยากลำบากเหลือเกิน


หนึ่งในเพลงที่เราชอบมากที่สุดและคิดว่ามันบ่งบอกถึงมิตรภาพที่แนบแน่นของสมาชิกในวงกับเสียงดนตรีในแบบคาราบาวได้ดีที่สุดคือเพลงที่ชื่อว่าเสียงเพลงไม่มีวันตาย เครื่องดนตรีไทยอย่างขลุ่ยถูกนำกลับมาบรรเลงในเพลงนี้อีกครั้งในช่วงต้นของเพลง ซึ่งนั่นทำให้เราสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลในแบบคาราบาว พอเริ่มเข้ากลางเพลงจังหวะสามช่าที่เป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของวงคาราบาวได้ทำงานถ่ายทอดความสนุกสนานครึกครื้น และเพลงนี้จบด้วยท่อนสุดท้ายของเพลงด้วยประโยคที่ว่า "นี่คือเสียงเพลงหัวควาย ตราบชีพวางวายมิอาจพรากเราจากเพลง" บ่งบอกถึงความเป็นคาราบาวทั้งหมดได้เป็นอย่างดี


นอกจากทั้งสี่เพลงที่แนะนำ ยังมีอีกหลายเพลงของคาราบาวที่เราชอบฟัง เช่น ทะเลใจ ที่ถูกนำไปร้องใหม่ไม่รู้กี่รอบ มหาลัย เพลงที่มีเนื้อหากระแทกใจนักศึกษาตกงาน และรวมถึง ลมพัดใจเพ เพลงรักที่ร้องโดยเฑียรี่ เป็นต้น





That Original Frippo

0 comments:

Post a Comment