Wednesday, May 29, 2013

Internship

เนื่องจากเข้าช่วงซัมเมอร์แล้ว และเป็นช่วงที่เด็กฝึกงานเริ่มเข้ามาที่บริษัท พี่เลยจะขอเล่าเรื่องประสบการณ์ฝึกงานซะหน่อย...ปีนี้ในทีมของพี่มีน้องๆฝึกงานสองคน อายุ 19 และ 22 ปี การที่ตอนนี้มีน้องๆฝึกงานเข้ามาทำให้พี่ซึึ่งเมื่อก่อนเด็กที่สุดในทีมรู้สึกแก่ลงไปมาก ^^”

โปรแกรมฝึกงานของบริษัทพี่จะเริ่มในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนพฤษภาคม ยาวไปถึงอาทิตย์แรกของเดือนสิงหาคม รวมๆแล้วประมาณ 10 อาทิตย์ ในวันแรกที่ไปถึงก็จะมีการปฐมนิเทศเล็กๆ ซึ่งจะไม่เป็นทางการมากนัก โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลมาแนะนำความเป็นมาของบริษัท กิจกรรมที่เราจะทำ และเรื่องเอกสารต่างๆที่ต้องให้กับฝ่ายบุคคล เช่น ถ้าเป็นนักเรียนต่างชาติก็ต้องมีเอกสารที่เกี่ยวกับวีซ่านักเรียน เป็นต้น หลังจากนั้นก็มีการแจกข้าวกลางวัน ซึ่งตอนนี้จะมีทีมลีดเดอร์ หรือผู้จัดการของเด็กแต่ละคนมาร่วมกินข้าวด้วย เพื่อสร้างความสัมพันธ์กระชับมิตร ในจุดนี้หัวหน้าพี่ชอบเป็นพิเศษ ดี๊ด๊าทั้งวัน ว่าวันนี้ชั้นจะได้กินข้าวฟรี 55

พี่สังเกตว่าการฝึกงานที่บริษัทพี่ จะเน้นให้เด็กฝึกงานมีความรักในบริษัท เริ่มด้วยในวันแรก มีการล่อใจด้วยการแจกของ สมุด ปากกา กระบอกน้ำ (สำหรับพนักงานทั่วไป วันแรกไม่ได้ของแจกอย่างนี้นะจ๊ะ) และมีการโชว์พาวเวอร์พ้อยท์แสดงประวัติ ผลิตภัณฑ์ และความสำเร็จต่างๆของบริษัท นอกจากนั้นแล้วในระหว่างโปรแกรมฝึกงานทางฝ่ายบุคคล ก็จัดกิจกรรมให้ได้พบกับผู้บริหาร เช่นมีการกินข้าวกลางวันกับผู้บริหารทุกวันพฤหัส ก่อนจบโครงการก็มีการไปกินปาร์ตี้อย่างหรูที่ “คฤหาส” ของผู้บริหาร ขอใช้คำว่าคฤหาส เพราะมันเป็นบ้านบนเชิงเขาที่อยู่ในหมู่บ้านที่มีประตูกั้นเข้าออก และยามดูแลอย่างแน่นหนา พนักงานทั่วไปยังไม่เคยได้ไปกันเลย


Budweiser Brewery Tour - July, 2013


Budweiser Brewery Tour - July, 2013


นอกจากความรักในบริษัทแล้ว กิจกรรมต่างๆก็สร้างความสัมพันธ์ให้กับระหว่างเด็กฝึกงานกันเอง เช่นจะมีการทำกิจกรรมทุกบ่ายวันพฤหัส เช่นเล่นเกมส์ละลายพฤติกรรม และในวันศุกร์ อาทิตย์เว้นอาทิตย์ จะมีการทำกิจกรรมนอกสถานที่ เช่น ไปทัวร์ศูนย์ดาวเทียวของบริษัทที่ Wyoming ไปทัวร์โรงเบียร์ Budweiser แต่ที่เด็ดสุดคงต้องยกให้การไป 14er (อ่านว่า โฟร์ทีนเนอร์) ซึ่งเป็นการเดินขึ้นเขาที่สูงกว่า 14,000 ฟุต เริ่มเดินกันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าจนบ่ายสอง เจ้ากิจกรรมเนี่ยแหละ ที่ทำให้ได้สนิทกับเพื่อนกันมากๆ (เหมือนที่คนอื่นว่าไว้ ว่ได้เห็นใจตอนจะเป็นจะตายเนี่ยเอง 55)


Mt. Greys, CO - July, 2013


จริงๆแล้วพวกกิจกรรมพวกนี้ถ้าเรามองอีกมุมนึง มันก็เป็นแผนการตลาดเพื่อโปรโมทภาพลักษณ์ที่ดีของบริษัททางอ้อม ทำให้เวลาเราจบโปรแกรมไปแล้ว เราจะพูดถึงบริษัทในทางที่ดี และถ้าเราโชคดีได้ job offer หลังจากที่จบจากโปรแกรม ก็จะทำให้บริษัทได้บุคลากรที่มีความรักองค์กรมากขึ้น อันนี้ถ้าให้เปรียบเทียบกับประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกงานที่บริษัทยักษ์ใหญ่บริษัทหนึ่งของไทย มันมีความต่างตรงที่พอจบจากโครงการฝึกงาน กลับไม่มีความอยากทำงานที่นั้น เพราะได้เห็นและรู้สึกได้ถึงความกดดันและความเครียดในการทำงาน แต่สิ่งที่ได้ไม่ต่างกันก็คือเพื่อนที่ได้จากการฝึกงานนั่นเอง




Mellow tiger..

0 comments:

Post a Comment