Tuesday, April 16, 2013

ดอกไม้หลังฝน


ฉันเดินทางกลับบ้านมาในวันที่แดดเดือนเมษาร้อนราวกับเจ้าหญิงอารมณ์ร้าย

สองเดือน คือเวลาที่ฉันไม่ได้กลับมาบ้าน
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ต้นไม้ทยอยร่วงหล่นจากต้น บรรยากาศเริ่มร้อนแล้ง
กลับมาครั้งนี้ ที่ว่าร้อนแล้งในวันนั้นกลับกลายเป็นร่มรื่นไปถนัดตา
สิ่งที่ฉันเห็นในวันนี้คือใบไม้ที่บ้างสีเหลืองแห้งกรอบ บ้างสีเขียวซีดจาง
บ้างสีน้ำตาลเข้มขึ้นๆตามปริมาณองศาของอุณหภูมิ

ความร้อนไม่ได้มาลำพัง แต่ยังพาความแล้งมาด้วย
นอกจากอากาศแสนทารุณ น้ำกินน้ำใช้ยังไหลเอื่อย มีน้อยจนทุกคนรู้สึกได้
ประเพณีสงกรานต์ที่เคยเล่นกัน 4-5 วัน ลดลงมาเล่นกันแค่ 2 วันเท่านั้น
ถัดจาก 2 วันแรก เมืองทั้งเมืองกลายเป็นเมืองร้าง ไร้ร่องรอยการเล่นน้ำ
เสียงผู้คนบ่นกันหนาหู น้ำมีน้อย เราควรใช้สอยอย่างประหยัด
นี่คือความเปลี่ยนแปลงของประเพณี
หรือจริงๆคือสิ่งที่เราควรเรียกว่าวิกฤตของโลก?



































































แล้วจู่ๆ ในคืนวันที่ 2 ที่กลับมาอยู่บ้าน
น้ำจากฟ้าก็โปรยปรายลงมาให้ได้ชื่นใจ
ฝนตกลงมาให้ชื่นฉ่ำอยู่ได้ราวชั่วโมง
พ่อกับแม่ปลาบปลื้มใจ
รำพึงรำพันว่า นี่ก็มากพอให้ต้นไม้เก็บสะสมไปได้ทั้งอาทิตย์
คงจริง, เพราะเพียงแค่กิ่งใบได้สัมผัสน้ำ
สีเขียวซีดจางก็พลันเปลี่ยนเป็นสีเขียวสดใสราวกับไม่เคยได้เหี่ยวเฉามาก่อน

ฝนหยุดตกนานแล้ว
แต่ไฟที่ดับไปตั้งแต่พายุเข้าก็ยังไม่มา
เราจุดเทียนให้แสงสว่างแทนไฟฟ้า แล้วนอนคุยกันเนิ่นนานในความมืด
เราลงความเห็นกันว่าสำหรับคืนที่น่าจดจำเช่นนี้ คงต้องขอบคุณฝนฟ้าพายุ
ที่ทำให้เราได้มีเวลาพูดคุยใกล้ชิดกันมากขึ้น

รุ่งเช้าวันนี้ วันสุดท้ายที่บ้าน
ฉันตื่นแต่เช้า ออกสำรวจต้นไม้ใบหญ้าหลังผ่านศึกหนักมาเมื่อคืน
ดอกไม้หลายดอกเหี่ยวเฉา หลายดอกหล่นคว้างอยู่ใต้ต้นเพราะโดนลมแรง
แต่กิ่งใบของเธอกลับเขียวสดใสงดงาม พร้อมจะแตกผลิต่อยอดขยายพันธุ์
ชีวิตคนเราก็คงเป็นเช่นนี้ จำเป็นจะต้องสละบางสิ่ง
เพื่อให้บางสิ่งได้เติบโตงดงาม



































































กลับมาบ้านคราวนี้ ฉันมีข่าวดี
ข่าวดีที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้น ดีใจ
แต่ก็เป็นข่าวดีที่มาพร้อมกับการตระหนักรู้ว่า
ไม่นานหลังจากนี้ เราจำเป็นจะต้องจากกันไกลอีกครั้ง
ไกลและยาวนานกว่าครั้งใดๆที่เราเคยจาก

ดีใจระคนใจหาย,
ฉันพยายามเก็บจำและเรียนรู้จากภาพการเปลี่ยนแปลงของต้นไม้ดอกไม้...
เพื่อการดำรงอยู่ เราจำเป็นต้องยอมแลกบางสิ่ง
เพื่อบางสิ่งที่เป็นจริงกว่าเสมอ
และฉันก็รู้ดีว่า หลังจากดอกไม้เหี่ยวเฉาหรือร่วงหล่นไป
วันหนึ่งพวกเธอก็จะกลับมาผลิบานอวดโฉมให้ได้ชื่นชมใหม่เสมอ





























































Patha V

1 comments:

  1. ตัวอักษรอบอุ่นเจือเศร้า ภาพถ่ายก็ไม่แพ้กัน
    แต่พี่เชื่อว่า หวายพร้อมจะเดินต่อและเผชิญมัน

    :)

    -countrygirl-

    ReplyDelete